หนูจาไม : คุณตาจะพาหนูไปไหนคะ (Where are we going?)
คุณตา : ตาจะพาหนูไปยิงกระต่าย ที่ป่าเขาชีโอน ไป....เราไปกัน
ระหว่างทางคุณตา ก็เล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง (คุณตาเป็นคนล้ำยุค ล้ำสมัย เปิดแท็บเล็ตให้ดู) งั้นเรา...มาชมพร้อม ๆ กัน นะคะ
หนูจาไม : อุ้ย...(ด้วยนิสัยชอบเป็นคนชอบจับผิดผู้อื่น ปล.นิสัยนี้ไม่ดีนะคะ อย่าเลียนแบบ) คุณตาคะ หนูสงสัยจังค่ะ "ลาภ" กับ "ลาบ" ต่างกันยังไงคะ
"ลาภ" หมายถึง สิ่งที่มักจะได้มาโดยไม่คาดคิด ภาษาอังกฤษ เช่นคำว่า "Luck" (กดที่นี่เพื่อฟังเสียงคำศัพด์ค่ะ )
ส่วน
"ลาบ" หมายถึง อาหารชนิดหนึ่ง ใช้เนื้อสัตว์สับให้ละเอียดผสมด้วยเครื่องปรุง หน้าตาเป็นอย่างงี้ไงหลานรัก
หนูจาไม : อูว์....น่ากินจังค่ะ เดี๋ยววันหลังคุณตาทำให้ทานหน่อยนะคะ
หนูจาไม : แสดงว่า ในวิดีโอที่คุณตาเปิดให้ดู คำว่า โลภมากลาบหาย ควรจะเป็น ลาภ หรือ ลาบ กันแน่ละคะ
คุณตา : เอ่อ....หลานเป็นคนช่างสังเกตุจังเลยนะ ที่ถูกต้อง ควรเป็น "ลาภ" นะสิจ๊ะ ไม่ใช่ "ลาบ" จ้า
คุณตาและหนูจาไม เดินไปตามทางเรื่อย ๆ ไปเจอพี่พรีม (คุณหมอจากตอนที่แล้ว )
หนูจาไม : อ้าว...สวัสดีค่ะพี่พริีม ตาเป็นอะไรอ่ะคะ
พี่พรีม : ตา (granfather) ก็เป็นสามีของยาย(grandmother,grandma) ซิจ๊ะ
หนูจาไม : เอ่อ....มุขเก๊า...เก่า ....
พี่พรีม : ล้อเล่นครับหนูจาไม พี่ไม่บอกดีกว่าเป็นโรคอะไร เด๊ว... ให้จาไมเดาเอานะ แล้วเราเดินมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ
หนูจาไม : คุณตาบอกว่าจะพาไปยิงกระต่ายที่ป่าเขาชีโอน อ่ะค่ะ
พี่พรีม : เอ่อ...เขาชีโอนอยู่จังหวัดชลบุรี จะเดินทางจากอุตรดิตถ์ไปถึงต้องใช้เวลากี่วันกันละเนี่ย....555
หนูจาไม : หันไปทางคุณตา แล้วคุณตาจะพาหนูจาไปเดินไปถึงเขาชีโอน จริง ๆ หรือคะ หนูเมื่อยละคะ ไม่ไหวหรอกค่ะ
คุณตา : 555 ตาล้อเล่น เขาชีโอน เป็นอยู่ในพื้นที่วนอุทยานรักษาป่าและสัตว์ป่า เค้าห้ามล่าสัตว์น่ะ ตาไม่สามารถไปยิงกระต่ายได้หรอก แต่ตาไปปัสสาวะ (ภาษาแบบวัย สะ รุ่น อาจพูดว่า ยิงกระต่าย ) ที่สุขา ที่เขาชีโอนได้ 555 ความจริง ตาว่าจะไปเยี่ยมยายเมี้ยน (ปากไม่ตลาดหรอกนะ) ที่บ้าน เห็นแกบ่นปวดหลังอยู่ ว่าจะไปดูซักหน่อยว่าอาการแกเป็นยังไงมั่ง
พี่พรีม : งั้น..เดี๋ยว ผมไปด้วยก็ได้ครับ เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง
และแล้วทั้ง 3 คนก็เดินทางไปบ้านยายเมี้ยนด้วยกัน...
ระหว่างทาง พี่พรีมก็ถามหนูจาไมว่า
พี่พรีม : ระหว่างทางคุณตาเล่านิทานให้ฟังหรือเปล่า (พี่พรีมสนิทกับคุณตามาก รู้นิสัยคุณตาว่าชอบเล่านิทานให้หนูจาไมฟังเสมอ ๆ )
หนูจาไม : เล่าให้ฟังค่ะ คุณตาเปิดแท็บเล็ต ให้ดูค่ะ เดี๋ยว...หนูเปิดให้ดูนะคะ แล้วหนูจาไมก็เปิดให้พี่ พรีมดู
พี่พรีม : พี่นึกคำใบ้ โรคที่พี่เป็นได้แล้วหล่ะ ให้หนูจาไม เปิดวิดีโอดูซิว่า "ในระหว่างนาทีที่ 1.12-1.20 ขึ้นคำว่าอะไร" โรคที่พี่เป็นมีคำนั้นอยู่ด้วย
หนูจาไม : อ่อ...มีคำว่า "กุ้ง" แสดงว่า พี่พรีมเป็นโรค "ตากุ้ง"
พี่พรีม : 555 ใกล้ถูกแล้ว "ตากุ้ง" พี่เติมให้อีกคำนะ คำว่า "ยิง" รวมเป็นโรค "ตากุ้งยิง"
หนูจาไม : "ตากุ้งยิง" เป็นยังไงอ่ะคะ
พี่พรีม : "ตากุ้งยิง" ภาษาอังกฤษ คือ "stye (สะ-ไต๊)"หรือ "hordeolum (ฮอร์-ดี-โอ-ลุ่ม)" เป็นการอักเสบของต่อมไขมันบริเวณฐานขนตา ใต้เปลือกตา
อาการ : เริ่มแรกจะเริ่มรู้สึกมีผงเข้าตา ปวด บวม แดง ร้อนที่ตา น้ำตาไหล ขี้ตามาก กระพริบตาแล้วเจ็บ
ปัจจัยที่ทำให้เกิด : เกิดจากเชื้อที่มีอยู่ที่ขนตา ซึ่งหากภูมิต้านทานร่างกายเราต่ำ ก็จะทำให้เชื้อกำเริบ ปัจจัยที่ทำให้ภูมิร่างกายเราต่ำ เช่น เครียด นอนไม่หลับ โดยเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกุ้งยิงส่วนใหญ่ ได้แก่ เชื้อที่ชื่อว่า Staphylococcus aureus
โดยแบ่งเป็น
1.Internal hordeolum ใหญ่กว่าและหัวฝีชี้เข้าด้านใน เรียกกันว่า กุ้งยิงภายใน
2.External hordeolum ขนาดไม่ใหญ่และหัวฝีจะชี้ออกด้านนอก (ด้านผิวหนัง) เรียกกันว่า กุ้งยิงภายนอก
ปกติจะหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์ และจะแตกออก หากไม่แตกออกจะกลายเป็นซีสต์ ไม่เจ็บ ไม่ปวด ซึ่งรักษาโดยการเจาะหนองออกโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หนูจาไม : รักษายังไงอ่ะคะ
พี่พรีม : การรักษามีหลายวิธีจ้า ดังนี้
-ประคบด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นหรือช้อนอุ่นพันผ้าที่บริเวณที่เป็น นวดเบา ๆ 15 นาที วันละ 3-4 ครั้ง ซึ่งจะช่วยให้ต่อมไขมันที่ฐานขนตาเปิดให้หนองไหลออกได้ง่ายขึ้น เพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้ชีสต์ยุบลงได้ ช่วยลดปวดและต่อสู้กับเชื้อโรค หากไม่ยุบอาจใช้การกรีดออกโดยแพทย์
-สำลีชุบน้ำ เช็ดจากหัวตาไปหางตา วันละ 2 ครั้ง
-ใส่แว่นกันฝุ่น ทำความสะอาดใบหน้า หยุดใช้ทาเครื่องสำอางขณะที่เป็นโรค
-ไม่ควรบีบหนองออกเอง เพราะจะทำให้เชื้อกระจาย
-หลีกเลี่ยงใช้มือสกปรกขยี้ตา
หนูจาไม : แล้วมียารักษาไหมคะ
พี่พรีม : มีซิจ๊ะ ดังนี้จ้า
ยาทา
Terramycin ป้ายตาทุก 4 ชั่วโมง
Bacitracin ป้ายตาทุก 4 ชั่วโมง
Chloramphenicol eye drop หยอดตาทุก 2 ชั่วโมง
Moxifloxacin eye drop หยอดตาวันละ 5 เวลา
Ciprofloxacin eye drop หยอดตาทุก 4 ชั่วโมง
Fucidic acid eye oint ป้ายวันละ 3-4 ครั้ง
ยารับประทาน
กรณีเป็นรุนแรงหรือกรณีกลับเป็นซ้ำหรือกรณีเป็น internal hordeolum (ซึ่งอาจใช้ยาทาไม่ได้ผล) หรือแพทย์บางท่านระบุว่า ยาหยอดตาอย่างเดียว ไม่ได้ผลไม่ว่าจะเป็นตากุ้งยิงแบบใดก็ตาม ควรใช้ยารับประทาน เพื่อให้ยาเข้าทางกระแสเลือดเพื่อไปรักษาโรคที่เป็น เช่น
Dicloxacillin ขนาด 125-250 mg วันละ 4 เวลาก่อนอาหารและก่อนนอน
Cloxacillin ขนาด 250-500 mg วันละ 4 เวลาก่อนอาหารและก่อนนอน
Erythromycin ขนาด 250 mg วันละ 4 เวลาก่อนอาหารและก่อนนอน
Tetracycline ขนาด 250 -500 mg วันละ 4 เวลาหลังอาหารและก่อนนอน
Cephalexin 250-500 mg ×4 (max.4g/day)
Augmentin ขนาด 1g วันละ 2 ครั้งหลังอาหารเช้า เย็น
โดยทั่วไปใช้ยาประมาณ 7 วัน แต่ไม่ใช่ให้ใช้ทั้งหมดข้างต้นนะ ต้องเลือกเอาตัวใดตัวหนึ่ง แต่สามารถใช้ยาหยอดหรือป้าย ร่วมกับยารับประทานได้จ๊ะ
เรื่องวิธีการใช้ ว่าหยอดวันละกี่เวลา รับประทานวันละกี่เวลา ควรปรึกษาแพทย์เวลาที่เราเป็นโรคนั้นจริง ๆ อีกทีนะ อย่าเชื่อพี่มาก 555
ซึ่งหากเป็น 1-2 สัปดาห์ อาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อเจาะหนองออก หรือหากขึ้นเป็นตุ่มหนองแล้วไม่สบายใจจะไปพบแพทย์เพื่อรักษาก็ไม่ว่ากันนะจ๊ะ
ส่วน Vitamin C และ vitamin A ก็อาจช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันได้บ้าง และ omega-3 fatty ก็ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของไขมันในต่อมไขมันได้จ๊ะ
หากจะใช้สมุนไพร ก็เช่น ใช้ยอดตำลึงเขี่ยที่เป็นกุ้งยิง ให้ยางตำลึงติดอยู่ ทำวันละ 3 ครั้ง กุ้งยิงจะยุบลง แต่ต้องล้างให้สะอาดก่อนนะ มีผู้เชี่ยวชาญบางท่านแนะนำว่าเวลาเด็ดยอดตำลึงให้เด็ดมาทั้งเถาหรือเด็ดมายาว ๆ ไม่ให้เด็ดเฉพาะยอดที่จะใช้มา เพราะถ้าเด็ดเอามาเฉพาะยอดเวลานำไปล้างน้ำยางจะถูกล้างออกไปหมด
หนูจาไม : แล้วหนูมีวิธีป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้่ไหมคะ
พี่พรีม : ป้องกันโดย
-ควบคุมโรคที่ทำให้ภูมิต้านทานต่ำให้อยู่ในระดับปกติ เช่น คุมเบาหวานให้ระดับน้ำตาลอยู่ในช่วงปกติ
-ทำความสะอาดหน้า ผม ไม่ให้ผมแยงตา
-ไม่ขยี้ตาด้วยมือสกปรก
หนูจาไม : พี่พรีมคะ หนูเป็นโรคภูมิแพ้ หนูจะมีโอกาสเป็นตากุ้งยิง บ่อย ๆ ไหมคะ
พี่พรีม : ผลโดยตรงไม่นะ แต่หากเราเป็นโรคภูมิแพ้อากาศ ทำให้เรามีโอกาสที่จะขยี้ตาบ่อย ๆ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสติดเชื้อที่ตาได้
หนูจาไม : แล้วพี่สาวหนูละคะ เค้าชอบใส่ contact lens (ปล.พี่สาวเป็นคนรักสวย รักงามน่ะค่ะ แหะ...กระแหนะกระแหนนิด ๆ ) จะมีโอกาสเป็นตากุ้งยิงได้บ่อยกว่าหนูจาไม ที่ใส่แว่นสายตาธรรมดาไหมคะ
พี่พรีม : การใส่ contact lens นานทำให้ตาแห้ง ซึ่งโดยปกติ น้ำตาจะทำหน้าที่กำจัดโรค และหากใส่นานทำให้การระบายเชื้อโรคออกไม่ค่อยดี แพทย์บางท่านไม่แนะนำให้ใส่นอนด้วยซ้ำเพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระจกตาได้ ก็มีส่วนทำให้เกิดตากุ้งยิงบ่อยกว่าได้นะ
หนูจาไม : งั้น...หนูใส่แว่นธรรมดาดีกว่า 555
พี่พรีม : จริง ๆ ก็มีวิธีรักษาแบบอื่น ๆ ด้วย แต่พี่ไปบอกวันหลังนะ มาถึงบ้านคุณยายเมี้ยนละ เรารีบเข้าไปเยี่ยมท่านกันเถอะ
หนูจาไม : ค่ะ (งั้น...วันนี้ จบแค่นี้ก่อนนะคะ ท่านผู้อ่าน วันหลังหนูจาไม จะมาเล่าสาระใหม่นะคะ บ๊าย...บาย)
ปล. พี่่พรีม บอกว่า อย่าเชื่อพี่พรีมมาก ให้ไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่
Ref:
http://vachiraphuket.go.th/www/public-health/index.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=201
http://haamor.com/th/กุ้งยิง/
http://www.nhs.uk/conditions/stye/Pages/introduction.aspx
http://emedicine.medscape.com/article/798940-medication#1
https://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&rct=j&url=http://www.college-optometrists.org/download.cfm/docid/43a8718c-b2b7-4677-ac4035e750f8ae11&ved=0ahUKEwjS-fCpn-HOAhUHKo8KHfRcDDQQFgg7MAM&usg=AFQjCNG5jOhdmzijLxeBJ9V-j_SRO5rcUQ&sig2=Qk72Gm_X2ckf6d5CSmWdHw
http://www.merckmanuals.com/professional/eye-disorders/eyelid-and-lacrimal-disorders/chalazion-and-hordeolum-stye
http://emedicine.medscape.com/article/1213080-medication#2
https://www.betterhealth.vic.gov.au/health/conditionsandtreatments/styes
http://www.aao.org/eye-health/ask-ophthalmologist-q/erythromicin-on-stye
http://www.medicinenet.com/script/main/mobileart.asp?articlekey=61105&page=5
Mims
Drugs.com
https://www.doctor.or.th/article/detail/4407
Youtube
ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก phayaoloveyou.blogspot.com ค่ะ ^ ^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น