หนูจำไม : สวัสดีค่ะ พี่พรีม พี่กำลังจะไปไหนคะ
พี่พรีม : พี่จะไปสอนนักศึกษาน่ะ
หนูจำไม : คราวนี้ สอนเรื่องอะไรอ่ะคะ
พี่พรีม : สอนเรื่อง รูมาตอยด์
หนูจำไม : แล้วยางมะตอยมันเกี่ยวกับคนไข้ยังไงอ่ะค่ะ
พี่พรีม : เอ่อ....จำไม สมองท่าจะมีปัญหา เข้าสำนวนเดิม go where come 3fold in 2 meters
and 2fold in half meter
and 2fold in half meter
หนูจำไม : สำนวนนี้ลึกซึ้งเกินไป ข้าน้อยไม่เข้าใจ รบกวนท่านกุนซือ ช่วยเฉลยสำนวนด้วยค่ะ
พี่พรีม : go แปลว่าอะไร
หนูจำไม : go (โก) แปลว่า ไป
พี่พรีม : where แปลว่า อะไร
หนูจำไม : where (แวร์) แปลว่า ที่ไหน
พี่พรีม : come แปลว่าอะไร
หนูจำไม : come (คัม ) แปลว่า มา
พี่พรีม : three แปลว่าอะไร
หนูจำไม : three (ทรี) แปลว่า 3
พี่พรีม : fold (โฟลด์) แปลว่า เท่า
หนูจำไม : 2 meters (2 เมตเตอร์) คือ 2 เมตร
พี่พรีม : 2 เมตร เท่ากับ 1 วา
หนูจำไม : 2 fold (2 โฟลด์) เท่ากับ 2 เท่า
หนูจำไม : half meter (ฮาล์ฟ เมตเตอร์) คือ ครึ่ง เมตร
พี่พรีม : ครึ่งเมตร เท่ากับ 1 ศอก
หนูจำไม : ขออนุญาต รวมคำนิดนึงนะคะ หนูสับสน พอดีไม่ได้เป็น อัจฉริยะมาเกิด
พี่พรีม : จ้า ๆ
หนูจำไม : go (ไป) where (ไหน) come (มา) 3fold in 2 meters (3 เท่าของ 1 วา) 2 fold
in half meter (2 เท่าของ1 ศอก)
in half meter (2 เท่าของ1 ศอก)
หนูจำไม : อ๋อ ไปไหนมา2 ศอก 3 วา
พี่พรีม : เอ่อ....พี่แนะนำว่าหนูจำไมกลับไปบ้านไปนอนหลับซักตื่น แล้วค่อยมาบอกพี่ว่า สำนวนนี้.
แปลว่าอะไรดีกว่ามั้ย
แปลว่าอะไรดีกว่ามั้ย
หนูจำไม : เอ่อ...พอดีว่า หนูไม่ได้นอนน้อย พอดีรอยหยักหนูน้อย พี่พรีม เฉลย เหอะ
พี่พรีม : ก็สำนวนเดิม ที่หนูจำไม บอกพี่เมื่อตอนที่แล้วไง " ไปไหนมา 3 วา 2 ศอก"
หนูจำไม : 555 หนูฟังได้แล้วค่ะว่าโรค "รูมาตอยด์" พอดีหนูอยากรู้ว่าพี่พรีมจะกระแนะกระแหน หนูว่า
ยังไง
ยังไง
พี่พรีม : 555 ช่างรู้นิสัยพี่จริง อิ อิ
หนูจำไม : เรื่องมัน เป็นยังไงค่ะ เจ้าโรค รูมาตอยด์ พี่พรีมรีวิวให้หนูฟังหน่อยได้ไหมคะ
พี่่พรีม: ได้ซิ เอาสั้น ๆ นะ ฟังให้ทันล่ะ
หนูจำไม : ค่า
พี่พรีม : เรื่องมันก็เป็นยังงี้..........................................
อาการของโรครูมาตอยด์
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดข้อ ข้อบวม กดเจ็บ ข้อผิดรูป นอกจากจะมีความผิดปกติที่ระบบข้อแล้ว ยังมีความ
ผิดปกติที่นอกระบบข้ออีก เช่น หลอดเลือดอักเสบ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ตาอักเสบ ตาแห้ง ปากแห้ง กระดูกพรุน ตรวจพบ rheumatoid factor ได้ (ในบางราย)
ผิดปกติที่นอกระบบข้ออีก เช่น หลอดเลือดอักเสบ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ตาอักเสบ ตาแห้ง ปากแห้ง กระดูกพรุน ตรวจพบ rheumatoid factor ได้ (ในบางราย)
การรักษา :
การรักษาด้วยยา
ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Naproxen (high potency/ long t1/2) ขนาด 500-
1500 มก.ต่อวัน Celecoxib 400 มก.ต่อวัน
ยากลุ่ม DMARDs เริ่มใช้
ตัวไหนในกลุ่มก่อนก็ได้ ควรเริ่มให้ตั้งแต่วินิจฉัยว่าเป็น RA ซึ่งจะช่วยลดอาการปวด ค่าอักเสบ ESR
จะลดลงกว่าใช้ยาเมื่อเป็นโรคนานมาแล้ว ซึ่งยากลุ่ม DMARDS ได้แก่
ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Naproxen (high potency/ long t1/2) ขนาด 500-
1500 มก.ต่อวัน Celecoxib 400 มก.ต่อวัน
ยากลุ่ม DMARDs เริ่มใช้
ตัวไหนในกลุ่มก่อนก็ได้ ควรเริ่มให้ตั้งแต่วินิจฉัยว่าเป็น RA ซึ่งจะช่วยลดอาการปวด ค่าอักเสบ ESR
จะลดลงกว่าใช้ยาเมื่อเป็นโรคนานมาแล้ว ซึ่งยากลุ่ม DMARDS ได้แก่
1.Antimalaria ประสิทธิภาพทั้ง 2 ตัวยาใกล้เคียงกัน
1.1 hydroxychloroquin ;HCQ
(Plaquinil) 200 -400 มก./วัน ปรับขนาดยาทีละ 200 มก. ทุก 12 สัปดาห์
1.1 hydroxychloroquin ;HCQ
(Plaquinil) 200 -400 มก./วัน ปรับขนาดยาทีละ 200 มก. ทุก 12 สัปดาห์
1.2 chloroquin 125-250 มก. วันละ 1 ครั้ง ปรับขนาดยาทีละ 125 มก. ทุก 12 สัปดาห์
ซึ่ง
ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ( ADR ) ที่สำคัญคือ จอประสาทตาเสื่อม (maculopathy) ถ้าเป็น
มากจะไม่สามารถหายกลับมาเป็นปกติได้ (non reversible) แต่ chloroquin มีโอกาสทำให้เกิด
maculopathy ได้บ่อยกว่า hydroxychloroquin
2.Methotrexate (MTX) 5-10 มก./สัปดาห์ ปรับขนาดทีละ 2.5 มก. ทุก 4-12 สัปดาห์ (ขนาดสูงสุด 20-25 มก./สัปดาห์ แต่การใช้ยา
ขนาดสูง ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิด) ซึ่งยาทำให้เกิดอาการไม่พึง
ประสงค์ ( ADR ) ที่สำคัญคือ ตับอักเสบ กดไขกระดูก เพิ่มโอกาสการติดเชื้อที่สูงขึ้น ทำให้เยื่อบุทาง
เดิน อาหารรวมปากอักเสบ (mucositis)
ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ( ADR ) ที่สำคัญคือ จอประสาทตาเสื่อม (maculopathy) ถ้าเป็น
มากจะไม่สามารถหายกลับมาเป็นปกติได้ (non reversible) แต่ chloroquin มีโอกาสทำให้เกิด
maculopathy ได้บ่อยกว่า hydroxychloroquin
2.Methotrexate (MTX) 5-10 มก./สัปดาห์ ปรับขนาดทีละ 2.5 มก. ทุก 4-12 สัปดาห์ (ขนาดสูงสุด 20-25 มก./สัปดาห์ แต่การใช้ยา
ขนาดสูง ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิด) ซึ่งยาทำให้เกิดอาการไม่พึง
ประสงค์ ( ADR ) ที่สำคัญคือ ตับอักเสบ กดไขกระดูก เพิ่มโอกาสการติดเชื้อที่สูงขึ้น ทำให้เยื่อบุทาง
เดิน อาหารรวมปากอักเสบ (mucositis)
3.Salazopyrin (sulfasalazine) 1000-2000 มก./วัน ปรับขนาดทีละ 500 มก. ทุก 4-12
สัปดาห์ ซึ่งทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ( ADR ) คล้ายคลึง MTX แต่เรื่องกดภูมิคุ้มกันน้อย
กว่า MTX มีประสิทธิภาพในการรักษาใกล้เคียง salazopyrin แต่ประสิทธิภาพสูงกว่า antimalaria
ซึ่งหากอาการไม่รุนแรงการเลือกใช้ antimalaria จะปลอดภัยกว่า
สัปดาห์ ซึ่งทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ( ADR ) คล้ายคลึง MTX แต่เรื่องกดภูมิคุ้มกันน้อย
กว่า MTX มีประสิทธิภาพในการรักษาใกล้เคียง salazopyrin แต่ประสิทธิภาพสูงกว่า antimalaria
ซึ่งหากอาการไม่รุนแรงการเลือกใช้ antimalaria จะปลอดภัยกว่า
ยากลุ่ม corticosteroid
Prednisolone ใช้ในกรณีใช้ NSAIDs ไม่ได้ เช่น ไตเสื่อม ตับแข็ง หรือใช้ไม่ได้ผล หรือ เป็น
รุนแรง ไม่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้ ขนาดยา < = 7.5 มก./วัน เมื่ออาการดีขึ้นควรลด
ขนาดยาจนถึงขนาดต่ำสุดหรือจนหยุดยาเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนจากยา
Prednisolone ใช้ในกรณีใช้ NSAIDs ไม่ได้ เช่น ไตเสื่อม ตับแข็ง หรือใช้ไม่ได้ผล หรือ เป็น
รุนแรง ไม่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้ ขนาดยา < = 7.5 มก./วัน เมื่ออาการดีขึ้นควรลด
ขนาดยาจนถึงขนาดต่ำสุดหรือจนหยุดยาเพื่อลดภาวะแทรกซ้อนจากยา
หลักการปรับลดขนาดยาที่ใช้รักษาโรครูมาตอยด์
หากสามารถคุมอาการของโรคให้โรคสงบ ได้นานอย่างน้อย 6 เดือน พิจารณาลดขนาดยาลงจนเหลือ
ขนาดต่ำสุดที่คุมโรคไม่ให้อาการกำเริบ ระหว่างการใช้ยาควรติดตามด้านความปลอดภัย (safety)
เช่น -เจาะเลือดตรวจสอบค่า CBC, ตับ ไต อย่างน้อยทุก 1-3 เดือน
ขนาดต่ำสุดที่คุมโรคไม่ให้อาการกำเริบ ระหว่างการใช้ยาควรติดตามด้านความปลอดภัย (safety)
เช่น -เจาะเลือดตรวจสอบค่า CBC, ตับ ไต อย่างน้อยทุก 1-3 เดือน
-CXR , จอประสาทตา (ป้องกัน maculopathy) อย่างน้อยทุก 1 ปี
การรักษาอื่น ๆ
เอกสารอ้างอิง :
1.แนวเวชปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2557 จากhttps://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://www.slideshare.net/mobile/UtaiSukviwatsirikul/2557-43628532&ved=0ahUKEwirxp6LlIzSAhVFPY8KHdqUBYsQFggwMAI&usg=AFQjCNHIfb1mFLHzIdQh5eV_QNhQAH8cjA&sig2=pTNNVPa5Wz7KyV3dKwl9eg
2.https://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&rct=j&url=http://med.mahidol.ac.th/med/sites/default/files/public/pdf/medicinebook1/Rheumatoid%2520arthritis.pdf&ved=0ahUKEwirxp6LlIzSAhVFPY8KHdqUBYsQFggdMAA&usg=AFQjCNHs_F5pYI9ZdL1sPoUVHWI7RamJKg&sig2=LRykgEWHMsrPUQuq-ixURw
การรักษาอื่น ๆ
-ไม่ควรนั่งยืนหรืออยู่ในอิริยาบถใด ๆที่ไม่เกิดการเคลื่อนไหวของข้อใดข้อหนึ่งนานๆ เพราะจะทำให้ข้อ
แข็ง ขาดความยืดหยุ่น เกิดข้อยึดได้เร็วขึ้น ควรขยับข้อต่างๆบ่อยๆ แต่ไม่ควรฝืนทำกับข้อที่กำลังมี
อาการบวมและปวดอยู่
-หลีกเลี่ยงการกระทำที่ส่งผลให้ข้อได้รับความกระทบกระเทือน เช่น ไม่ยก ไม่แบกของหนัก ไม่กระโดด
จากที่สูง พยายามใช้ข้อใหญ่ในการทำงานก่อน ใช้แรงจากข้อขนาดเล็ก เช่น นิ้ว ให้น้อยที่สุด
-ถ้ามีน้ำหนักตัวเกินควรต้องลดน้ำหนัก จะช่วยลดการรับน้ำหนักของข้อเข่าข้อเท้าได้
-แช่น้ำอุ่น หรือการประคบเย็น (Ice pack) ก็สามารถช่วยลดอาการได้ การที่จะเลือก ใช้น้ำอุ่นหรือน้ำ
แข็งขึ้นกับการตอบสนองของแต่ละบุคคล
-ออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการว่ายน้ำ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะมีผลต่อข้อน้อย และช่วย
เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อช่วยลดอาการปวด
ปล. พี่พรีม บอกว่าจากรูป คำว่า "this is joint deformity" แปลว่า "นี้คือข้อผิดรูป" คือ ภาวะ
หนึ่งซึ่งเกิดจากการเป็นโรครูมาตอยด์ ค่ะ
1.แนวเวชปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยและการดูแลรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ 2557 จากhttps://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://www.slideshare.net/mobile/UtaiSukviwatsirikul/2557-43628532&ved=0ahUKEwirxp6LlIzSAhVFPY8KHdqUBYsQFggwMAI&usg=AFQjCNHIfb1mFLHzIdQh5eV_QNhQAH8cjA&sig2=pTNNVPa5Wz7KyV3dKwl9eg
2.https://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&rct=j&url=http://med.mahidol.ac.th/med/sites/default/files/public/pdf/medicinebook1/Rheumatoid%2520arthritis.pdf&ved=0ahUKEwirxp6LlIzSAhVFPY8KHdqUBYsQFggdMAA&usg=AFQjCNHs_F5pYI9ZdL1sPoUVHWI7RamJKg&sig2=LRykgEWHMsrPUQuq-ixURw
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น